- ฉีดไขมันใต้ตา เป็นก้อน
- ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อแตกต่างกันอย่างไร? เลือกทำแบบไหนดี?
การฉีดไขมันใต้ตาเป็นกระบวนการรักษาเพื่อบรรเทาปัญหาริ้วรอยและร่องลึกบริเวณใต้ตา ทั้งนี้สามารถช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง เพิ่มความกระจ่างใสบ่งบอกสุขภาพโดยรวมที่ดี ซึ่งการรักษาทั้งหมดจะใช้นวัตกรรมผสานกับความเป็นธรรมชาติที่ร่างกายรับรู้ได้ดีด้วยการนำไขมันจากร่างกายของคนไข้เอง ซึ่งส่วนมากไขมันส่วนเกินจากบริเวณต้นขาหรือหน้าท้อง โดยแพทย์จะทำการคัดเลือกไขมันส่วนเกินของคนไข้ แล้วใช้เครื่องดูดไขมันออกมา เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์และนำมาผสมกับเนื้อเยื่อไขมันจะให้สารเติมเต็มที่สมบูรณ์มากขึ้น จากนั้นเตรียมฉีดเข้าไปที่บริเวณใต้ตาเพื่อเสริมสร้างให้ปัญหาดูลดลง
ฉีดไขมันใต้ตาต้องพักฟื้นหรือไม่? การรักษาด้วยการฉีดไขมันใต้ตา ผู้ใช้บริการจะต้องทำการพกฟื้น แต่เป็นการพักฟื้นระยะสั้นเท่านั้น โดยปกติจะใช้เวลาเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล) ซึ่งเมื่อเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมแล้ว ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จึงพอใจที่จะเลือกการฉีดไขมันใต้ตามากกว่า ที่สำคัญผลข้างเขียงหลังการฉีดไขมัน คุณอาจพบอาการบวมเล็กน้อยบริเวณใต้ตาหรือบริเวณที่ฉีดไขมัน โดยอาการบวมจะค่อยๆ ลดลงจนเป็นปกติ
ฉีดไขมันใต้ตาอันตรายหรือไม่?
ฉีดไขมันใต้ตา เป็นก้อน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผิวบริเวณรอบดวงตาดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แย่ไปกว่านั้นคือรอยหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัด?
- ฉีดฟิลเลอร์กับฉีดไขมัน อันไหนดีกว่ากัน มีข้อดีต่างกันอย่างไรบ้าง? - Amarante Clinic อะมารันเต้คลินิก
- เบรกเกอร์ 30a ราคาถูก ซื้อออนไลน์ที่ - เม.ย. 2022 | Lazada.co.th
- กำ ไล tory burch tote
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอย, ร่องลึกและช่วยปรับรูปหน้า ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานกว่า 1 ปี โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นการนำไขมันของตัวเองมาฉีดเข้าไป โดยในช่วงแรกนั้นไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจมีการสลายไปบางส่วนและเมื่อผ่านไประยะหนึ่งไขมันจะคงตัวในที่สุด
2. ลดสัดส่วนได้ในคราวเดียว
ไขมันที่นำมาใช้เพื่อฉีดเข้าไปเติมเต็มริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า เป็นไขมันที่มาจากตัวผู้เข้ารับบริการเอง ดังนั้นก่อนที่จะทำการฉีดไขมันจะต้องมีการดูดไขมันออกมาก่อน ทำให้สามารถลดสัดส่วนบริเวณที่ดูดไขมันออกมาได้พร้อมกับการแก้ไขปัญหาริ้วรอยไปในตัว
3. ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมแล้ว การฉีดไขมันใต้ตาเป็นวิธีการเสริมความงามที่ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า โดยหลังจากการฉีดแล้วอาจมีอาการบวมเล็กน้อย จากนั้นอาการบวมจะลดลงและทำให้เห็นผลความเปลี่ยนแปลงของการฉีดไขมันได้อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาในการพักฟื้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์เท่านั้น
ข้อเสียของการ ฉีดไขมันใต้ตา
1. ขั้นตอนยุ่งยาก
เนื่องจากการฉีดไขมันใต้ตาจะต้องใช้ไขมันจากตัวผู้เข้ารับบริการเอง ดังนั้นนอกจากในกระบวนการฉีดแล้ว จะต้องมีกระบวนการการดูดไขมันออกมาด้วย แล้วต้องนำไขมันไปปั่นเพื่อแยกกับของเหลวอื่นๆ เพื่อให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพก่อนจึงจะนำมาฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังได้ นับเป็นวิธีที่ยุ่งยากและต้องใช้เวลานานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป
2.
ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อแตกต่างกันอย่างไร? เลือกทำแบบไหนดี?
ผลลัพธ์ครั้งแรกอาจไม่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร
เนื่องจากไขมันเป็นสารที่อยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ และสามารถถูกดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นในการฉีดไขมันใต้ตาหลังจากการฉีดแล้ว ไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจถูกดูดซึมนำไปใช้ ทำให้ผลในการฉีดครั้งแรกอาจไม่เป็นไปตามที่ต้องการอย่างเต็มที่หรืออาจไม่เห็นผลชัดเจนเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์
3. ต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ
หากในการฉีดไขมันใต้ตาครั้งแรกผลที่ได้รับยังไม่น่าพึงพอใจ เพราะการดูดซึมหรือสลายตัวของไขมัน อาจต้องมีการฉีดไขมันซ้ำเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ ผู้เข้ารับบริการอาจต้องดูดไขมันเพิ่มเพื่อนำมาฉีดเติมบริเวณที่ต้องการแก้ไข ทำให้ต้องเสียเวลาพักฟื้นและเสียเวลาในการทำมีระยะหนึ่งกว่าจะได้ผลกี่นาที
ข้อดีของการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1. เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเทคนิคการฉีดสารเต็มเติมที่สามารถเห็นผลได้ทันที หลังจากการฉีดเข้าไปแล้ว เนื่องจากสารที่ใช้ฉีดจะมีความคงตัวทันที ดังนั้นถ้าหากเมื่อฉีดแล้วรู้สึกไม่พึงพอใจสามารถเติม หรือนำสารเติมเต็มออกจากบริเวณใต้ดวงตาได้ทันที
2. ไม่ต้องผ่าตัด
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยหรือใบหน้าที่มีความบกพร่อง ด้วยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปใต้ผิวหนังชั้นลึกเท่า ไม่จำเป็นต้องกรีดเปิดแผลหรือทำการผ่าตัดผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยหรือแต่อย่างใด บริเวณที่บกพร่องบนใบหน้า ผู้เข้ารับบริการจึงไม่ต้องเจ็บตัวเพื่อความสวยและไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะข้างเคียงหลังการผ่าตัดอีกด้วย
3.
และมีคุณภาพดีจะมีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับการฉีดไขมัน
✅ระยะเวลาอยู่ได้ไม่นาน 6 เดือน-2 ปี แล้วแต่ยี่ห้อรุ่น และบริเวณที่ฉีด ถ้าฉีดไขมันติดแล้วจะอยู่ได้นานกว่า
✅ มีโอกาสฉีดเข้าอุดตันเส้นเลือดได้เหมือนกับการฉีดไขมัน
✅ เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบโครงสร้างเดียวกับHA ตามธรรมชาติในผิวของร่างกาย มีโอกาสแพ้ได้ แต่น้อยกว่า 0. 1% ( ความปลอดภัยสูงอย.
มีคนอ่านบทความนี้แล้ว:
7, 315
วันที่อัพเดตล่าสุด: 22 September 2021 Reading Time: 3 minutes
บทความแนะนำ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์/โบท็อกซ์ I แอนดี้ เขมพิมุก ลดริ้วรอย ใบห...
Reading Time: 2 minutes การเข้าคลินิกเสริมความงาม เป็นอะไรที่ไกลตัว จนมาเจอ V Square Clinic ผมตัดสินใจกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้งในวัย 41 ที่มีทั้งริ้วรอย ร่องลึก ความหมองคล้ำ คุณหมอเบสช่วยดูแล ทำ 2 หัตถการคู่กันทั้งฉีดฟิลเลอร์ และโบท็อก เปลี่ยนหน้าโทรมให้กลับมาสดใส เดินออกจากคลินิกแล้วมั่นใจขึ้นเยอะเลย
การฉีดไขมันเพื่อเติมเต็มบริเวณใต้ตาจะไม่เป็นอันตรายหากได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่หากไม่ใช่แล้วก็มีความเสี่ยงสูงที่ผู้ใช้บริการจะได้รับอันตรายจากการฉีดไขมัน เนื่องจากไขมันเป็นสารประกอบขนาดใหญ่ ไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยสลายได้ในทันทีหากเกิดความผิดพลาดโดยเฉพาะถ้าฉีดเข้าที่หลอดเลือด ดังนั้นผู้ใช้บริการต้องพิจารณาโปรแกรมในการรักษาอย่างถ้วนถี่
ฉีดไขมันใต้ตาหรือเติมฟิลเลอร์ใต้ตาดี?
ปัญหาใต้ตาลึก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ CC
ปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาหมองคล้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยดูโทรม ดวงตาดูอิดโรยไม่สดใส รวมถึงอาจทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้นด้วย การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยฟิลเลอร์นั้นถือว่าเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะหลังทำเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และดูสวยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้อง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่พอดีไม่มากหรือน้อยจนเกินไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ด้วยเช่นกัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร? การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ HA filler เข้าไปในบริเวณใต้ตา เพราะด้วยอายุเราที่เพิ่มมากขึ้นอาจทำให้เกิดการยุบตัวลงของชั้นไขมัน หรือ กระดูกยุบตัวลง ทำให้เนื้อที่เคยเต็มบริเวณใต้ตาดูน้อยลง และทำให้บริเวณรอบดวงตาดูไม่สดใส รวมถึงใบหน้าดูเหนื่อยดูโทรมอีกด้วย การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขปัญหา ใต้ตาลึก ใต้ตาหมองคล้ำ ถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดชื่นขึ้น ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอีกด้วย
ปัญหาใต้ตาเกิดจากอะไร? ปัญหาใต้ตาโดยส่วนใหญ่เกิดจากการร่วงโรยของวัย อายุเพิ่มมากขึ้น กระดูกหน้าแก้มบริเวณใต้ตาทรุดตัวลง ไขมันชั้นลึกบริเวณใต้ตามีการฝ่อตัว ทำให้เกิดปัญหาใต้ตาดูลึก ดูเหนื่อย ดูโทรมไม่สดใส รวมถึงผิวหนัง เอ็นยึด และกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย ผนังกั้นที่คอยผยุงถุงใต้ตา(orbital septum)อ่อนแรง ทำให้เกิดปัญหาถุงใต้ตาตามมา นอกเหนือจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม พักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิแพ้ ก็ทำให้เกิดปัญหาใต้ตาลึก มีถุงใต้ตา ร่องใต้ตา ได้เช่นกัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร?